คำนวณวงเงินกู้บ้าน เงินเดือนเท่านี้กู้ซื้อบ้านได้ราคาเท่าไร?
วงเงินกู้บ้านสูงสุดสามารถคำนวณได้อย่างไร?
วงเงินกู้บ้านสามารถทำการคำนวณได้โดยคำนึงถึง รายได้ของผู้ที่ยื่นกู้ 3 ปัจจัย ได้แก่ รายรับ รายจ่าย และประวัติการชำระหนี้ โดยแต่ละปัจจัยมีรายละเอียดดังนี้!
ประเมินรายรับ
ก่อนที่จะประเมินวงเงินกู้สูงสุดนั้น เราต้องย้อนกลับมามองก่อนว่าตนเองมีรายรับประจำ (เช่น เงินเดือนประจำ) เข้ามาเท่าไร ซึ่งธนาคารนั้นจะกำหนดอัตราการผ่อนชำระรายเดือนคร่าวๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 40% ของรายรับในแต่ละเดือน
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท เท่ากับว่าความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุดของคุณคือ 8,000 บาทนั่นเอง
หากธนาคารคำนวณแล้วว่าบ้านหลังที่คุณต้องการมีมูลค่าสูงเกินกว่าจะชำระเงินงวดรายเดือนได้ ก็อาจทำให้การอนุมัติเป็นไปได้ยาก
ประเมินหนี้สินและรายจ่าย
โดยปกติ ที่ธนาคารกำหนดคร่าวๆ ไว้ว่าอัตราการผ่อนชำระรายเดือนต้องไม่เกิน 40% นั้น เป็นเพราะต้องการให้อีก 60% เป็นรายได้ช่วยในการดำรงชีพ แต่ถ้าหากผู้ยื่นกู้มีหนี้สิน ก็มีส่วนที่ทำจะให้วงเงินกู้ลดลงเช่นเดียวกัน
สมมติว่า คุณมีรายรับเดือนละ 20,000 บาท แต่มีหนี้สินที่ต้องจ่ายเดือนละ 4,000 บาท ธนาคารจะทำการหักรายจ่ายแล้วประเมินรายรับที่เหลือ
ทำให้รายรับของผู้กู้เหลือเพียง 16,000 บาทเท่านั้น
เท่ากับว่า คุณจะมีกำลังผ่อนชำระสูงสุดเพียง 40% ของ 16,000 = 6,400 บาทนั่นเอง
ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ปกติ
ประวัติการชำระหนี้นั้นนอกจากจะมีผลต่อการอนุมัติการขอสินเชื่อจากธนาคาร ยังมีผลต่อวงเงินกู้สูงสุดอีกด้วย หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ไม่ปกติบ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันมีรายรับที่มั่นคง ธนาคารก็อาจผ่อนผันอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่อาจได้วงเงินที่ต่ำลงกว่าปกติ
วิธีคำนวณวงเงินกู้บ้านสูงสุดของธนาคาร
เมื่อทราบวิธีการคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนกันแล้ว เรามาคำนวณกันเลยว่าวงเงินกู้บ้านสูงสุดนั้นจะได้เท่าไร!
ซึ่งการคำนวณคร่าวๆ นั้นสามารถทำได้โดยง่าย เพียงนำความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนมาคูณกับ 150 ก็จะสามารถประมาณวงเงินกู้สูงสุดได้!
ตัวอย่างเช่น ผู้ยื่นกู้มีรายรับประจำ 30,000 บาท เท่ากับสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 12,000 บาท หมายความว่าจะสามารถขอวงเงินกู้สูงสุดได้ที่ 12,000 x 150 = 1,800,000 บาทนั่นเอง
โดย ธอส. ได้ทำการเปรียบเทียบวงเงินกู้สูงสุดเงินเดือนคร่าวๆ ดังนี้!
หมายเหตุ: สูตรการคำนวณดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น หากผู้ยื่นกู้ต้องการทราบข้อมูลแบบละเอียดชัดเจน แนะนำให้ทำการติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่จากธนาคาร
เคล็ดลับน่ารู้เพื่อให้การกู้ผ่านฉลุย!
บางคนอาจเป็นกังวลหรือสงสัยว่า ทั้งๆ ที่ตนเองก็มีรายได้เยอะ แต่ทำไมขอสินเชื่อไม่ผ่านเสียทีนะ? ความจริงแล้วในการอนุมัตินั้นไม่ได้คำนึงว่าผู้ยื่นกู้มีรายได้มากแค่ไหนเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความมั่นคงและน่าเชื่อถือเป็นหลัก!
เพื่อให้การขอสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธอส. ขอแนะนำให้คุณดำเนินการตาม 2 ข้อแนะนำ ดังนี้
รายการเดินบัญชี
ข้อแนะนำแรก คือ รายการเดินบัญชี เนื่องจากธนาคารจะต้องทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของรายได้ เพื่อพิจารณาสถานะทางการเงินของคุณ สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประจำนั้นอาจจะไม่ลำบากในเรื่องนี้เท่าไร แต่หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของธุรกิจ จะต้องคำนึงเรื่องนี้ให้ดีๆ
นอกจากนี้ รายการในบัญชีไม่ควรแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินรายรับในแต่ละเดือนหรือไม่เป็นเหตุเป็นผล โดยเฉพาะการถอนเงินจนหมดบัญชีในทุกๆ เดือน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง!
จำนวนเงินเก็บ
ข้อแนะนำต่อมาคือ เงินเก็บ ยิ่งมีมากเท่าไรธนาคารก็ยิ่งอนุมัติสินเชื่อคุณได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เนื่องจากเงินเก็บเป็นเหมือนสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวินัยในการบริหารการเงินของคุณ รวมไปถึง ธนาคารฯ ยังมั่นใจได้ว่าแม้มีวิกฤตทางการเงินเกิดขึ้น คุณก็ยังมีเงินสำรองไว้ใช้จ่ายได้โดยไม่มีปัญหา
ขอบคุณข้อมูล : ธนาคาร ธอส.